การอัพเดทตัวเครื่อง Nintendo Switch

เพื่อให้ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น คุณสามารถอัพเดทฟังก์ชันตัวเครื่อง Nintendo Switch ด้วยการดาวน์โหลดผ่านอินเทอร์เน็ต หาก System version ของคุณไม่ได้เป็นเวอร์ชันล่าสุด กรุณาอัพเดทเป็นเวอร์ชันล่าสุดก่อนใช้งาน

เวอร์ชันล่าสุดในปัจจุบัน: 19.0.0 (อัปเดตเมื่อ 8 ตุลาคม 2024)

ข้อมูลการอัพเดท

ข้อมูลการอัพเดทสำคัญจากเวอร์ชันก่อนหน้า

เวอร์ชัน 19.0.0 (อัปเดตเมื่อ 8 ตุลาคม 2024)

・แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น

ข้อควรระวังในการอัพเดทตัวเครื่อง

ควรอัพเดทตัวเครื่องในสภาวะที่ทำงานได้ปกติ

  • หากมีการปรับแต่งตัวเครื่อง ใช้อุปกรณ์เสริมหรือซอฟต์แวร์ที่ Nintendo ไม่รองรับ ตัวเครื่องอาจไม่สามารถทำงานได้หลังการอัพเดท
  • หากในตัวเครื่องมี Save data ที่สร้างด้วยวิธีอื่นนอกเหนือจากวิธีใช้งานตามปกติ หรือข้อมูลที่ Nintendo ไม่รองรับ ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความขัดข้องเท่านั้น แต่ยังทำให้คุณไม่สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจ ข้อมูลประเภทนั้นจึงอาจถูกลบโดยอัตโนมัติ

หากมีการอัพเดทตัวเครื่องในสภาวะไม่ปกติดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น เราจะไม่รับประกันการทำงานของเครื่อง ตัวเครื่องจะหลุดจากประกันและการส่งซ่อม

ประวัติการอัพเดทตัวเครื่อง

เวอร์ชัน 18.1.0 (อัปเดตเมื่อ 11 มิถุนายน 2024)

・การอัปเดตต่อไปนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากการยุติการใช้งาน X (เดิมคือ Twitter) ในวันที่ 11 มิถุนายน 2024:

○ตัวเลือก “Post to Twitter” เมื่อแชร์จากอัลบั้มในหน้า HOME Menu ของ Nintendo Switch ถูกลบออก

○ตัวเลือกในการเชื่อมสู่ X (เดิมคือ Twitter) จาก "Settings" > "User Settings" > "Posting to Social Media" ถูกลบออก

・ตัวเลือกในการเชื่อมบัญชีโซเชียลมีเดียจาก "My Page" > "Friend Suggestions" ถูกลบออก

・แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 18.0.1 (อัปเดตเมื่อ 23 เมษายน 2024)

・แก้ไขปัญหาที่เครื่องเกมไม่พบจุดเชื่อมต่อแบบไร้สายบางจุด ในกรณีที่มีการตั้งค่าเครือข่ายไร้สายใหม่

○หากคุณไม่สามารถอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 18.0.1 ได้เนื่องจากปัญหาดังกล่าว
ให้เปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายไร้สายของคุณให้ใช้เฉพาะ “WPA2 (AES)” เป็นการชั่วคราว
เพื่อที่คุณจะสามารถเชื่อมต่อแบบไร้สาย เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งการอัปเดตระบบเครื่องเกมได้

○หลังจากอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 18.0.1 แล้ว
ให้ปรับค่าความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายไร้สายของคุณ กลับไปเป็นค่าเดิม

・แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 18.0.0 (อัปเดตเมื่อ 26 มีนาคม 2024)

・เพิ่มตัวเลือก "15 Minutes” ลงในการตั้งค่า "Auto-sleep when playing on TV" ใน Sleep Mode

・เพิ่มการรองรับภาษาเกาหลีลงในวิดีโอแนะนำ "Nintendo Switch Parental Controls"

○เมื่อภาษาของตัวเครื่องเกมถูกตั้งเป็นภาษาเกาหลี ผู้ใช้จะสามารถรับชมวิดีโอได้โดยเลือก Settings > Parental Controls

・เแก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 17.0.1 (อัปเดตเมื่อ 5 ธันวาคม 2023)

・แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ local communication สำหรับบางเกม

・แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 17.0.0 (อัปเดตเมื่อ 11 ตุลาคม 2023)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 16.1.0 (อัปเดตเมื่อ 22 สิงหาคม 2023)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 16.0.3 (อัปเดตเมื่อ 9 พฤษภาคม 2023)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 16.0.2 (อัปเดตเมื่อ 18 เมษายน 2023)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 16.0.1 (อัปเดตเมื่อ 23 มีนาคม 2023)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 16.0.0 (อัปเดตเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2023)

ser Nickname ที่ไม่สามารถใช้ได้จะถูกแทนที่ด้วย “???”

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 15.0.1 (ดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2022)

แก้ไขปัญหาการกดถ่ายรูปหน้าจอไม่ได้ ระหว่างการเล่นเกมในบางเกม

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


เวอร์ชัน 15.0.0 (อัปเดตได้ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2022)

มีการเปลี่ยนตำแหน่งของ “Bluetooth® Audio” ในหัวข้อ “System Settings”
แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


14.1.2 (อัปเดตเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2022)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


14.1.1 (อัปเดตเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2022)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


14.0.0 (อัปเดตเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2022)

เพิ่มฟังก์ชัน "Groups" ลงใน "All Software" ในหน้า HOME

  • สามารถสร้างกลุ่มและจัดกลุ่มเกมตามใจชอบได้
  • สามารถจัดกลุ่มเกมตามชนิดของเกมหรือค่ายผู้ผลิต ทำให้หาเกมที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

    -สามารถสร้าง "Group" ได้สูงสุด 100 กลุ่ม แต่ละกลุ่มสามารถบันทึกรายชื่อเกมได้สูงสุด 200 เกม

    -หากมีไอคอนเกม 13 อันหรือมากกว่า จะมีปุ่มเมนู "All Software" แสดงขึ้นด้านขวาของหน้า Home

เปลี่ยนการปรับระดับเสียงของ Bluetooth® Audio

  • สามารถปรับระดับเสียงของอุปกรณ์ Bluetooth Audio จากตัวเครื่อง Nintendo Switch ได้แล้ว
  • เมื่อปรับระดับเสียงด้วยปุ่มบนอุปกรณ์ Bluetooth Audio จะมีการแสดงระดับเสียงที่ถูกปรับบนหน้าจอเครื่องเกมด้วย
  • อุปกรณ์ Bluetooth Audio ส่วนหนึ่งได้รับการปรับระดับเสียงสูงสุดให้เพิ่มขึ้น

การเปลี่ยนแปลงนี้ใช้ได้เฉพาะอุปกรณ์ Bluetooth Audio ที่รองรับ AVRCP profile เท่านั้น


13.2.1 (อัปเดตเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2022)

แก้ปัญหาบางส่วน เพิ่มความเสถียรในการใช้งาน และปรับให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น


13.2.0 (ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2021)

แก้ไขปัญหาบางจุด ปรับเพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลในการทำงาน


13.1.0 (ตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2021)

แก้ไขปัญหาบางจุด ปรับเพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลในการทำงาน


13.0.0 (ตั้งแต่ 15 กันยายน 2021)

เพิ่มฟังก์ชันของ "System Settings" ดังต่อไปนี้

รองรับ "Bluetooth® audio

  • รองรับการเชื่อมต่อหูฟัง ลำโพง ฯลฯ ที่ส่งสัญญาณผ่าน Bluetooth® เข้ากับ Nintendo Switch

    -ระหว่างการใช้งาน Bluetooth audio จะเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์ไร้สายได้เพียง 2 อัน และไม่สามารถใช้ร่วมกับ Local Communication ได้

    -ไม่รองรับการนำเข้าเสียงผ่านไมโครโฟน Bluetooth audio

    -อุปกรณ์ Bluetooth audio บางตัวอาจเกิดเสียงดีเลย์ชัดเจน

เพิ่ม "Update Dock" ใน "System" เพื่ออัพเดทซอฟท์แวร์ของ Nintendo Switch dock

  • Nintendo Switch dock ที่สามารถอัพเดทได้มีแค่รุ่น dock [HEG-007] ที่มาพร้อมกับ Nintendo Switch – OLED Model ที่มีพอร์ต LAN สำหรับเชื่อมต่อโดยเฉพาะเท่านั้น

    *ไม่มีการเพิ่มฟังก์ชันนี้ใน Nintendo Switch Lite

เพิ่ม "Maintain Wired Connection in Sleep Mode" ใน "Sleep Mode"

  • เมื่อเปิดการตั้งค่านี้ ตัวเครื่องที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สายจะยังคงสถานะการเชื่อมต่อแม้อยู่ใน Sleep Mode เมื่อมีการซื้อเกมหรือคอนเทนท์เสริมจากสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ตัวเครื่องจะเริ่มดาวน์โหลดทันที
  • หากปิดการตั้งค่า ตัวเครื่องจะเปลี่ยนไปเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเป็นระยะเพื่อดาวน์โหลด แต่ก็จะกินไฟน้อยลงเช่นกัน

    *ค่าเริ่มต้นของการตั้งค่านี้คือ "ON"

    *การทำงานของของเครื่องที่มี System version ต่ำกว่า 13.0.0 จะเทียบเท่าการเปิดใช้การตั้งค่านี้

เปลี่ยนวิธีการเริ่มต้น Calibrate ใน "Controllers and Sensors" → "Calibrate Control Sticks"

  • เปลี่ยนวิธีการกดจาก "กด Control Stick" มาเป็น "กด Control Stick ค้างไว้ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง"

เมื่อมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย จะสามารถตรวจสอบย่านความถี่คลื่นที่ใช้งาน (2.4GHz/5GHz) ได้ใน "Internet"


12.1.0 (ตั้งแต่ 6 กรกฎาคม 2021)

เมื่อมีพื้นที่ว่างไม่เพียงพอในหน่วยความจำระบบหรือในการ์ด microSD สำหรับดาวน์โหลดอัปเดตเกม ข้อมูลเก่าสำหรับเกมนั้นสามารถลบออกก่อนเพื่อให้ดาวน์โหลดข้อมูลใหม่ได้สำเร็จ หากข้อมูลเก่าถูกลบ เกมจะไม่สามารถเล่นได้จนกว่าข้อมูลใหม่จะเสร็จสิ้นการดาวน์โหลด มีการแก้ไขและปรับปรุงความเสถียรของระบบหลายอย่างเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้


12.0.3 (ตั้งแต่ 8 มิถุนายน 2021)

เพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลของระบบ ปรับเพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลของระบบเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น


12.0.2 (ตั้งแต่ 12 พฤษภาคม 2021)

เพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลของระบบ ปรับเพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลของระบบเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น


V12.0.1 (ตั้งแต่ 20 เมษายน 2021)

เพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลของระบบ ปรับเพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลของระบบเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น


12.0.0 (ตั้งแต่ 6 เมษายน 2021)

แก้ไขปัญหาบางจุดรวมถึงความขัดข้องตามที่ระบุไว้ด้านล่าง ปรับเพิ่มความเสถียรและความลื่นไหลในการทำงาน


ปิด

วิธีการอัพเดท

อัพเดทอัตโนมัติ

เมื่อเชื่อมต่อ Nintendo Switch กับอินเทอร์เน็ต ข้อมูลอัพเดทตัวเครื่องจะถูกดาวน์โหลดโดยอัตโนมัติ หลังจากที่ดาวน์โหลดเสร็จสิ้น จะมีคำแนะนำการอัพเดทตัวเครื่องปรากฎขึ้นมาก่อนเริ่มเกม โปรดทำตามคำแนะนำบนหน้าจอเพื่ออัพเดท

อัพเดทด้วยตัวเอง

เชื่อมต่อตัวเครื่องกับอินเทอร์เน็ต จากนั้นที่เมนู HOME ให้ไปที่ "System Settings" → "System" → "System Update"

*สามารถตรวจสอบ System version ปัจจุบันของตัวเครื่องได้จากที่นี่เช่นกัน

เมนู HOME → System Settings
System → System Update